อักษรรูนประกอบไปด้วยอักขระ 24 ตัว เป็นพยัญชนะ 18 ตัว และสระ 6 ตัว | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อักษรรูน หรือ อักษรรูนิก ในภาษาพื้นเมืองเรียกฟูทาร์ก ซึ่งหมายถึงตัวอักษร ข้อความ หรือจารึก ในภาษาเยอรมันเก่าหมายถึง ประหลาดหรือความลับ อักษรนี้มีความเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ ทฤษฎีเกี่ยวกับจุดกำเนิดของอักษรรูน ได้แก่ อักษรนี้ถูกออกแบบโดยอิสระ ไม่ขึ้นกับอักษรอื่น การเขียนเริ่มขึ้นในยุโรปใต้และถูกนำไปทางเหนือโดยเผ่าเยอรมัน เป็นแบบให้อักษรละตินและอักษรอีทรัสคัน
จารึกอักษรรูนที่เก่าที่สุดพบราว พ.ศ. 643 แต่จารึกส่วนใหญ่อยู่ในราว พ.ศ. 1600 พบทั้งยุโรปตั้งแต่แหลมบอลข่าน เยอรมัน สแกนดิเนเวีย ไปจนถึงอังกฤษ ทิศทางการเขียนช่วงแรกผันแปรมาก โดยมากอยู่ในแนวซ้ายไปขวา ไม่มีการแบ่งช่องว่างระหว่างคำมากนัก โดยอาจมีการใช้จุดหนึ่งจุดหรือมากกว่า จารึกที่พบมีทั้งจารึกบนผาสูง หินขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้าง จารึกทางศาสนาและเวทมนตร์ จารึกเกี่ยวกับการค้าและการเมือง อาวุธคำสาป (คำทำนายจดหมายส่วนบุคคล) ข้อความสั้นๆและจารึกในงานศิลปะ
อักษรรูนมีหลายรูปแบบดังต่อไปนี้
อักษรฟูทาร์กรุ่นแรก (Elder Futhark) เป็นรูปแบบเก่าสุดที่พบในยุโรป ที่เป็นบ้านเกิดของเผ่าเยอรมัน รวมทั้งสแกนดิเนเวีย รูปแบบอื่นๆอาจพัฒนาไปจากรูปแบบนี้
อักษรรูนกอทิก ใช้เขียนภาษากอทิกที่เป็นภาษาเยอรมันตะวันออก แต่จุดเริ่มต้นยังไม่ชัดเจน จารึกอักษรนี้เหลืออยู่น้อยมาก ถูกแทนที่ด้วยอักษรอื่นเมื่อราว พ.ศ. 900 อักษรฟูทาร์ก แองโกล-แซกซอน (Anglo-Saxon Futhorc) มีการเพิ่มอักษรบางตัวเข้ามาเพื่อใช้เขียนภาษาแองโกล-แซกซอน ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษเก่า คาดว่าอักษรนี้เข้าไปในอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 1000 และใช้มาจนถึง พ..ศ. 1600 มักพบบนเครื่องประดับ ก้อนหิน อาวุธ และอื่น ๆ
อักษรฟูทาร์กรุ่นใหม่ (Younger Futhark) พัฒนาจากอักษรรุ่นเก่า และคงตัวอยู่จนถึง พ.ศ. 1300 เป็นอักษรหลักในนอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก จนกระทั่งถูกแทนที่ด้วยอักษรละตินเมื่อศาสนาคริสต์แพร่ไปถึง อักษรใน 3 ประเทศนี้ต่างกันเล็กน้อย
หลังพุทธศตวรรษที่ 23 การใช้อักษรรูนลดน้อยลง เมื่อศาสนาคริสต์แพร่หลายเข้ามา อักษรรูนถูกโยงเข้ากับเวทมนตร์คาถาซึ่งต้องถูกกำจัด ในปัจจุบันมีการฟื้นฟูการใช้อักษรรูนอีกครั้งแต่ใช้ในการพยากรณ์.
อักษรรูนกับศาสตร์ลึกลับ
อักษรรูนถือเป็นอักษรศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มชนชาติที่ใช้ภาษากลุ่มเยอรมัน มีการนำชื่อเทพเจ้าต่างๆ มารวมเข้ากับชื่ออักษร ต่อมาได้แพร่หลายเข้าไปในสแกนดิเนเวีย มีการสลักอักษรรูนไว้ในเหรียญกษาปต์ โลงศพ หรือใช้ประดับตกแต่งสถานที่ ในยุคนาซีมีการฟื้นฟูการใช้อักษรรูนอีกครั้ง แต่เมื่อนาซีหมดอำนาจก็เสื่อมความนิยมไป จนปัจจุบันการทำนายด้วยอักษรรูนเป็นที่นิยมและนำกลับมาศึกษากันอีกครั้ง มีการกำหนดวิธีทำนายมากมาย เช่น การโยนกิ่งไม้เพื่อให้เกิดเป็นรูปอักษรรูนหรือสุ่มหยิบก้อนหินที่สลักรูปอักษรรูนไว้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|