เปิดตัวยา 4 ขนาน ที่ WHO ใช้ทดลองต้านโควิด 19 |
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) |
แม้การพัฒนายาชนิดใหม่ต้องใช้เวลาหลายปี แต่นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังแข่งกับเวลาในการปรับจุดประสงค์การใช้ยาที่มีอยู่แล้วหรือนำมาทดลองซ้ำ เพื่อพยายามผลิตตัวยาต้านเชื้อไวรัสมาต่อสู้กับโรคโควิด-19 ที่ลุกลามทั่วโลก
เมื่อไม่นานนี้ WHO เริ่มการทดลองระดับโลกที่ใช้ชื่อว่า “โซลิดาริตี” Solidarity กับตัวยา 4 ขนานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. เรมเดซิเวียร์ remdesivir ที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าแล้วให้ใช้รักษาโรคอีโบลา
2. ยาสูตรผสมที่ใช้ต้านไวรัสเอชไอวีระหว่างโลปินาเวียร์ lopinavir กับริโทนาเวียร์ ritonavir
3. ยาสูตรผสมระหว่างโลปินาเวียร์กับริโทนาเวียร์ที่เพิ่มอินเตอเฟอรอนเบต้า
4. ยาคลอโรควิน chloroquine ที่ใช้ต้านโรคมาลาเรีย
ยาเรมเดซิเวียร์ ที่พัฒนาโดยบริษัทกิเลียด ไซแอนซ์ Gilead Sciences ได้รับการยกย่องว่ามีหวังรักษาโควิด-19 ได้ และกำลังมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่อยู่ 5 การทดลอง ซึ่งจะทราบผล 2 การทดลองได้ในต้นเดือน เม.ย.
เรมเดซิเวียร์ remdesivir
![]()
ยาดังกล่าวถูกใช้ครั้งแรกกับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการหนักในจีนแผ่นดินใหญ่ราวเดือน ก.พ. จากนั้นขยายไปอีกหลายประเทศ และทำให้ความต้องการใช้ยาชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นจนผู้ผลิตแจ้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะระงับการจ่ายยาตัวนี้ให้แก่ผู้ป่วยใหม่เป็นการชั่วคราว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เผยว่า ยาเรมเดซิเวียร์ที่ใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำขนานนี้มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสได้อย่างกว้างขวาง และสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้
อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ WHO เตือนว่า ผลการทดลองรักษาอีโบลาที่ผ่านมาพบว่า อาจมีผลข้างเคียงทำให้ตับเป็นพิษได้
ส่วน ยาคลอโรควิน ได้รับความสนใจในสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อวดอ้างเกี่ยวกับยารักษาโรคมาลาเรีย 2 ชนิด ได้แก่ ไฮดร็อกซีคลอโรควิน hydroxychloroquine และคลอโรควิน สามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้
สอดคล้องกับที่คณะนักวิจัยในสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนเผยเมื่อเดือน ก.พ. ว่า ยาคลอโรควินสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส Sars-CoV-2 ซึ่งเป็นชื่อทางการของไวรัสต้นตอโรคโควิด-19 เมื่อทดลองกับเซลล์มนุษย์ในห้องทดลอง
นพ.จง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินหายใจจีนบอกว่า ยาคลอโรควินปลอดภัยเพราะได้รับอนุญาตให้ใช้รักษามาลาเรียแล้ว อย่างไรก็ตาม ซีดีซียืนยันว่า ยังไม่อนุมัติให้ใช้รักษาโควิด-19 และยังต้องทดสอบเพิ่มเติม
ขณะที่ยาสูตรผสมโลปินาเวียร์กับริโทนาเวียร์ คณะนักวิจัยของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่นเผยว่า หลังใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 100 คนที่ได้รับการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป พบว่าได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน
โลปินาเวียร์และริโทนาเวียร์
ส่วนยาอีกชนิดที่ไม่อยู่ในโครงการทดลองของ WHO อย่าง "ฟาวิพิราเวียร์" favipiravir ซึ่งเป็นยาต้านไข้หวัดใหญ่ที่บริษัทฟูจิฟิล์มโตยามาเคมิคัลของญี่ปุนพัฒนาขึ้น ผลการทดลองรักษาผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่นและเสิ่นเจิ้นของจีนพบว่า ได้ผลอย่างเห็นได้ชัดและมีความปลอดภัยสูง แต่ต้องทดสอบเพิ่มเติมก่อนทำการทดลองทางคลินิกต่อไป
![]()
ฟาวิพิราเวียร์ favipiravir
![]() |
|
ขอบคุณข้อมูลข่าว กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
25 มีนาคม 2563
|