ฤกษ์ไทยฉบับมาตรฐาน
![]() |
ศาสตร์แห่งฤกษ์ มาตรฐานโหราศาสตร์ไทย |
|
โดย อาจารย์วรุณวิชญ์ วงศ์จตุพัฒน์ |
|
ความหมายของ “ฤกษ์” และรากฐานทางความเชื่อคำว่า “ฤกษ์” มีรากศัพท์จากสันสกฤต หมายถึง เวลาที่เหมาะสมในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยอิงจากการโคจรของดวงดาวและเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ คนไทยโบราณเชื่อว่า “ฟ้า–ดิน–มนุษย์” มีความสัมพันธ์กัน หากเลือกเวลาที่กลมกลืนกับพลังจักรวาล ชีวิตย่อมได้รับการส่งเสริม เกิดความสำเร็จ ร่มเย็น และมั่งคั่ง ในทางตรงกันข้าม หากกระทำสิ่งสำคัญโดยไม่เลือกฤกษ์ที่เหมาะสม ย่อมเสมือนเดินทวนกระแสแห่งธรรมชาติ ผลลัพธ์อาจนำมาซึ่งอุปสรรค ภัยพิบัติ และความทุกข์โศก ซึ่งตำราหลายสำนักได้ยืนยันตรงกันว่าฤกษ์คือ “สะพานเชื่อมระหว่างแรงงานมนุษย์และอำนาจสวรรค์” หมวดที่ ๑ : ฤกษ์การตั้งศาลพระภูมิ๑.๑ ศาลพระภูมิกับความหมายทางจิตวิญญาณศาลพระภูมิเป็นศูนย์รวมแห่งความเชื่อของชาวไทยมาช้านาน ถือว่าเป็นที่สถิตของ “เจ้าที่เจ้าทาง” ผู้ปกปักรักษาผืนดินและผู้อยู่อาศัย หากตั้งศาลถูกต้องตามฤกษ์และทิศ ย่อมก่อให้เกิดความร่มเย็น เกื้อหนุนให้กิจการบ้านเรือนรุ่งเรือง ๑.๒ ศาลพระภูมิ ๙ ประเภทในตำราโบราณระบุไว้ถึง ๙ ชนิด ของศาลพระภูมิ แต่ละชนิดมีสัญลักษณ์และความหมายต่างกัน เช่น
การเลือกชนิดศาลพระภูมิให้เหมาะกับสถานที่คือปฐมบทแห่งสิริมงคล ๑.๓ ทิศมงคลและทิศกาลกิณีตำราระบุว่า ควรตั้งศาลในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ–ใต้ เพื่อเลี่ยงเงาทับซ้อนระหว่างบ้านกับศาล ส่วน “ทิศกาลกิณี” ต้องพึงระวัง เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ห้ามตั้งศาลทิศเหนือ คนเกิดวันศุกร์ห้ามทิศพายัพ เป็นต้น ๑.๔ การหันศาลและเคล็ดมงคล
๑.๕ ดิถีและวันต้องห้ามนิยมใช้ ดิถีนคร คือดิถี ๒, ๔, ๖, ๙, ๑๑ หลีกเลี่ยงดิถียี่และวันห้ามยกศาลที่กำหนดไว้ตามแต่ละเดือน เช่น เดือน ๑,๕,๙ ห้ามวัน ๕,๗ เป็นต้น เว้นแต่จะใช้วันศรีกำเนิดหรือวันธงชัยแทน หมวดที่ ๒ : ฤกษ์ปลูกบ้าน๒.๑ ตำรา “สิทธิการิย”บทกลอนโบราณกล่าวถึงผลของการปลูกบ้านตามเดือน เช่น
นี่สะท้อนว่าคนไทยโบราณผูกชีวิตประจำวันเข้ากับการเคลื่อนของดวงดาวอย่างละเอียด ๒.๒ วันมงคลและอัปมงคลวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ ถือเป็นวันศุภเคราะห์ เหมาะแก่การปลูกบ้าน วันอาทิตย์ อังคาร เสาร์ ถือเป็นวันบาปเคราะห์ ควรงดเว้น หมวดที่ ๓ : ฤกษ์ยกเสาเอก๓.๑ ความสำคัญเสาเอกถือเป็น “หัวใจของบ้าน” การเลือกฤกษ์ที่เหมาะและพิธีกรรมที่ถูกต้องคือการวางรากฐานชีวิตของครอบครัว ๓.๒ เครื่องบูชาได้แก่ อิฐทอง อิฐเงิน อิฐนาค ธูปเทียนคู่ ผ้าผูกเสาตามสีวัน ต้นกล้วย ต้นอ้อย ยันต์ และบายศรี การใช้สิ่งของเหล่านี้เปรียบเสมือนการเชื้อเชิญเทพยดาและพลังธรรมชาติให้มาสถิตในเสา ๓.๓ ตำราทิศหัวนาค–หางนาคตำรากำหนดว่าการทอดปลายเสาและการขุดดินต้องสัมพันธ์กับเดือนเกิด เช่น เดือน ๗–๙ ให้หัวนาคอยู่ทิศเหนือ หางทิศใต้ เสาเอกอยู่ทิศหรดี เป็นต้น เพื่อให้พลังดินฟ้าไหลเวียนอย่างกลมกลืน หมวดที่ ๔ : การปลูกต้นไม้ภายในบ้าน๔.๑ ต้นไม้ต้องห้ามต้นโพธิ์ ตาล ไทร มะรุม ลั่นทม ฯลฯ ถือเป็นอัปมงคลหากปลูกในบ้าน เพราะเชื่อว่าจะนำทุกข์โศกหรือเสื่อมถอย ๔.๒ ต้นไม้มงคลประจำทิศแต่ละทิศมีต้นไม้มงคล เช่น
ต้นไม้เหล่านี้เชื่อว่าจะช่วยหนุนดวงของเจ้าบ้านและผู้อยู่อาศัย หมวดที่ ๕ : ฤกษ์แต่งงาน๕.๑ หลักเกณฑ์สำคัญ
๕.๒ พลังของชื่อและคู่ครองชื่อของผู้ร่วมพิธีต้องพิจารณาให้ถูกโฉลก เช่น หากผู้ใหญ่ชื่อ “ฤกษ์” ซึ่งเสียงพ้องกับ “เลิก” ถือว่าไม่เป็นมงคล ต้องหลีกเลี่ยง หมวดที่ ๖ : การบูชาฤกษ์การบูชาฤกษ์คือการเปิดทางเชื่อมดิน–ฟ้า ให้พลังฤกษ์ทำงานได้เต็มที่ โหรผู้ทำพิธีมักนุ่งขาวห่มขาว ทำพิธีก่อนเวลาฤกษ์ ๑๐–๓๐ นาที โดยเฉพาะฤกษ์ใหญ่ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิ หรือโกนจุก หมวดที่ ๗ : ตัวอย่างฤกษ์ในประวัติศาสตร์๗.๑ ฤกษ์บุกเบิกถนนศรีวิชัยครูบาศรีวิชัยเลือกวันศุกร์ที่เป็นวันธงชัยและอธิบดี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗ เพื่อสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ ผลคืองานสำเร็จโดยราบรื่น สะท้อนพลังฤกษ์ที่มั่นคง ๗.๒ ฤกษ์สร้างพระพุทธรูปถ้ำพระจารึกระบุว่าใช้ฤกษ์โรหิณีใน พ.ศ. ๒๐๒๗ เหมาะอย่างยิ่งต่อการสร้างพระพุทธรูปและเป็นที่ยืนยันว่าชาวไทยโบราณใช้หลักโหราศาสตร์อย่างละเอียดลึกซึ้ง |
| ศาสตร์แห่งฤกษ์คือมรดกภูมิปัญญาของบรรพชนที่สืบทอดมายาวนาน มิใช่เพียงพิธีกรรม หากแต่คือศาสตร์แห่งเวลาและพลังจักรวาลที่ผูกพันกับชีวิตผู้คนทุกมิติ การเลือกฤกษ์อย่างถูกต้องจึงเสมือนการวางรากฐานชีวิตให้มั่นคง เปิดทางสู่ความสำเร็จ และรักษาความกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ |
| (คลิกอ่านบทความด้านล่าง เพื่อเรียนรู้ต่อครับ) |
![]() |





































