ดาวพระเคราะห์วิกลคติ

ดาวพระเคราะห์วิกลคติ

ดาวพักร(พักร์) ดาวเสริด  ดาวมนท์ (มณฑ์)

ดาวพระเคราะห์วิกลคติ – วิถีแห่งฟ้าและปรากฏการณ์อันลี้ลับ ในศาสตร์โหรไทยที่สืบทอดจากบรรพกาล มีคำหนึ่งที่นักพยากรณ์ย่อมรู้จักและให้ความสำคัญยิ่ง คือคำว่า “วิกลคติ” อันหมายถึงสภาวะที่ดาวพระเคราะห์มิได้โคจรไปตามปรกติวิถี หากแต่แสดงอาการประหลาดผิดไป ทั้งเชื่องช้า เร่งรีบ หรือถึงกับถอยหลัง ราวกับสวรรค์บ่งบอกนัยบางประการให้มนุษย์ได้เรียนรู้ ในที่นี้ เราจะศึกษาสามลักษณะสำคัญ ได้แก่ ดาวพักร (พักร์), ดาวเสริด และดาวมนท์ (มณฑ์) ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์พื้นฐานของโหราศาสตร์ไทยและโหราศาสตร์สากลที่สัมพันธ์กับการตีความชะตาชีวิต

ดาวพักร (พักร์) – สัญญาณแห่งการถอยหลัง คำว่า พักร มาจากศัพท์โบราณ หมายถึง “ถอย” หรือ “หยุดพัก” ในทางโหราศาสตร์ไทยใช้เมื่อดาวเคราะห์ใดปรากฏแก่ตาโลกว่ามีการเคลื่อนที่ถอยหลัง มิได้ก้าวไปข้างหน้าเช่นปกติ แท้จริงแล้ว ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการที่ดาวเคราะห์โคจรออกห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้น กำลังของดวงอาทิตย์ที่เป็นศูนย์กลางแห่งแรงดึงดูดก็ลดลง ดาวจึงช้าลงและเสมือนถอยหลัง อาการเช่นนี้เรียกว่า “พักร” ความหมาย : ดาวที่พักรเปรียบเสมือนพลังที่ย้อนกลับภายใน ทำให้เรื่องราวที่ดาวนั้นกำกับไม่เดินหน้าเต็มกำลัง แต่กลับมีลักษณะ หวนกลับ ทบทวน หรือซ้ำซ้อน เช่น ดาวศุกร์พักร ความรักอาจย้อนรอยไปหาคนเก่า หรือมีปัญหาที่ต้องแก้ไขซ้ำ ดาวพุธพักร การเจรจา สัญญา หรือการสื่อสารอาจสะดุดไม่เป็นไปตามที่หวัง

ดาวเสริด – แรงเร่งเร้าและความรีบร้อน ตรงกันข้ามกับดาวพักร ดาวเสริดคือช่วงที่ดาวโคจรกลับเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ แรงดึงดูดเพิ่มพูน ดาวจึงวิ่งเร็วขึ้นกว่าปรกติ เหมือนเรือที่เจอกระแสน้ำเชี่ยวกราก ความหมาย : ดาวเสริดเปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งความเร่งรีบ การเร้าให้ตัดสินใจ การเร่งผลลัพธ์ หากเจ้าชะตาขาดความรอบคอบอาจเกิดการพลั้งเผลอ แต่ถ้าใช้พลังนี้ให้ถูกทางก็เสมือนมีกำลังส่ง เสริมให้สิ่งที่ทำสำเร็จเร็วเกินคาด

ดาวมนท์ (มณฑ์) – จุดชะลอ ก่อนการถอย ดาวมนท์ หรือ มณฑ์ คือสภาวะที่ดาวเริ่มชะลอตัว ความเร็วลดลงทีละเล็กทีละน้อย เสมือนกำลังจะหยุดเพื่อกลับโคจรถอยหลัง นับเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของจักรวาล ความหมาย: ดาวในระยะมนท์ให้ผลเช่น ความลังเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด หรือเหตุการณ์ที่เริ่มช้าลงกว่าที่ควร เป็นสัญญาณเตือนว่าชะตากำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนทิศทาง การตัดสินใจในเวลานี้ต้องใช้สติรอบคอบอย่างสูง

วิถีโคจรและข้อสังเกตสำคัญ ดาวพระเคราะห์โดยทั่วไปโคจรจากราศีหนึ่งไปสู่อีกราศีหนึ่งในทิศทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้น ราหู และ เกตุ ซึ่งมีวิถีโคจรตรงข้าม จึงกินเวลานานและให้ผลกระทบที่ลึกซึ้งต่อเจ้าชะตา การสังเกตวิกลคติจึงมิใช่เพียงความงามบนฟากฟ้า หากแต่เป็นดุจรหัสลับจากสวรรค์ ที่บ่งบอกพลังงานซ่อนเร้นในห้วงเวลานั้น ๆ ผู้ศึกษาโหราศาสตร์จำเป็นต้องเรียนรู้ลักษณะของพักร เสริด และมนท์อย่างลึกซึ้ง เพื่อจะได้ตีความได้อย่างแม่นยำ

บทสรุป “ดาวพระเคราะห์วิกลคติ” มิใช่เรื่องแปลกประหลาดเกินเข้าใจ หากแต่เป็น ภาษาของจักรวาล ที่สื่อสารผ่านการชะลอ การเร่ง และการถอยหลัง ชี้ให้มนุษย์รู้ว่า ทุกสิ่งมิได้ดำเนินไปข้างหน้าเสมอ แต่บางครั้งต้องย้อนกลับเพื่อแก้ไข บางครั้งต้องรีบเร่งเพื่อผ่านช่วงคับขัน และบางครั้งต้องหยุดชะลอเพื่อเตรียมพลิกทิศชีวิต การเรียนรู้ปรากฏการณ์นี้ คือการเรียนรู้ว่าชีวิตก็เปรียบเสมือนดวงดาว ที่บางคราวต้อง พักร บางครั้งต้อง เสริด และบางครั้งก็ มนท์ เพื่อให้สมดุลกับเส้นทางแห่งฟ้าและชะตากรรม

อ.วรุณวิชญ์  วงศ์จตุพัฒน์