ประวัติของวิชาดวงจีน

 

ประวัติโหราศาสตร์วิชาดวงจีน
(หรือ BaZi 八字)

1.  จุดกำเนิดแห่งวิชาโหราศาสตร์จีน

วิชาโหราศาสตร์จีน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ดวงจีน”, “โป๊ยหยี่สี่เถียว”, หรือ “BaZi (八字)” มีรากฐานจากปรัชญาและจักรวาลวิทยาจีนโบราณ ที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า (天 – เทียน), ดิน (地 – ตี้), และมนุษย์ (人 – เหริน) หรือที่เรียกว่า “สามประสาน (三才)” อันเป็นหลักคิดหลักของศาสตร์จีนทุกแขนง

  • วิชานี้เชื่อว่า มนุษย์คือผู้รับอิทธิพลจากฟ้าดิน ผ่านระบบของ พลังชีวิต (Qi 氣) ที่หมุนเวียนอยู่ในเวลา สถานที่ และร่างกาย

  • จึงเกิดเป็นศาสตร์ที่พยายาม “อ่านพลังจักรวาล” จาก วันเดือนปีเวลาเกิด เพื่อเข้าใจชะตาชีวิตของบุคคล

2.  จากตำราโบราณสู่ระบบ “โป๊ยหยี่สี่เถียว”

ระบบการพยากรณ์ดวงชะตาของจีนมีหลากหลายรูปแบบ เช่น

  • 六壬 (ลิ้วยิ่น)

  • 奇門遁甲 (ชี่เหมินตุ่นเจี่ย)

  • 紫微斗數 (จื่อเวยโต๊วซู้ – ดวงดาวจีน)
    แต่ที่แพร่หลายมากที่สุดในหมู่ชาวบ้านและนักพยากรณ์ คือ ระบบ BaZi หรือ ดวง 8 ตัว 4 เสา

โครงสร้างของ “โป๊ยหยี่สี่เถียว”

ประกอบด้วยข้อมูล 4 หลัก (4 เสาเวลาเกิด) ได้แก่:

  • ปีเกิด (年柱) → ญาติพี่น้อง ครอบครัว วัยเด็ก

  • เดือนเกิด (月柱) → พ่อแม่ งานอาชีพ พื้นฐานชีวิต

  • วันเกิด (日柱) → ตัวตน และคู่ครอง

  • เวลาเกิด (時柱) → บุตรบริวาร ความคิด วิสัยทัศน์

โดยในแต่ละเสาจะมี 2 ตัวอักษรจีน ได้แก่:

  • ตัวบน (天干 – เทียนกาน) คือ ธาตุบนฟ้า

  • ตัวล่าง (地支 – ตี่จี) คือ ราศีบนดิน
    รวมทั้งสิ้น = 8 ตัว (八字 = ปาอึ๊ = แปดอักษร)

3.  ระบบธาตุห้า (五行) และหลักหยินหยาง (陰陽)

ดวงจีนใช้ระบบ ปัญจธาตุ (ไม้ 火 ไฟ 土 ดิน 金 ทอง 水 น้ำ) ร่วมกับ หยิน–หยาง เพื่อวิเคราะห์:

         
ธาตุไม้ (木) สีเขียว ทิศตะวันออก ฤดูใบไม้ผลิ หมายถึงการเติบโต, ความยืดหยุ่น
ธาตุไฟ (火) สีแดง ทิศใต้ ฤดูร้อน หมายถึงพลังงาน, ความร้อน, ชื่อเสียง
ธาตุดิน (土) สีเหลือง ทิศศูนย์กลาง กลางฤดู หมายถึงความมั่นคง, การรองรับ
ธาตุทอง (金) สีขาว ทิศตะวันตก ฤดูใบไม้ร่วง หมายถึงความแข็งแรง, การเก็บเกี่ยว
ธาตุน้ำ (水) สีดำ ทิศเหนือ ฤดูหนาว หมายถึงการเคลื่อนไหว, ปัญญา

หลัก หยิน–หยาง (Yin–Yang) ถูกใช้เพื่อแบ่งคุณลักษณะของธาตุ เช่น:

  • ไม้หยาง = ต้นไม้ใหญ่, ไม้หยิน = ไม้เลื้อย

  • ไฟหยาง = ดวงอาทิตย์, ไฟหยิน = เทียน

4.  ปฏิทินจีน: รากฐานของการคำนวณดวง

ดวงจีนใช้ ปฏิทินเกรกอเรียน + ปฏิทินสุริยคติจีน ซึ่งประกอบด้วย:

  • รอบ 60 ปี (干支 – กานจื้อ): เกิดจากการจับคู่ระหว่าง 10 天干 (เทียนกาน) และ 12 地支 (ตี่จี)

  • เมื่อผู้ใดเกิดปีใด จะมี “เทียนกาน+ตี่จี” ของปีนั้น เช่น:
    ปี พ.ศ. 2568 → ยกตัวอย่างเป็น ปี 乙巳 (อิกจี๋) หรือ ไม้หยิน + งู(มะเส็ง)

5.  ยุคทองของดวงจีนในราชวงศ์ต่าง ๆ

วิชาดวงจีนเริ่มแพร่หลายในราชวงศ์ฮั่น (漢), พัฒนาในราชวงศ์ถัง (唐), และได้รับการรวบรวมเป็นหมวดหมู่จริงจังในราชวงศ์ซ่ง (宋) โดยปราชญ์ที่มีบทบาท ได้แก่:

  • 徐子平 (ซวีจื่อผิง) → ผู้วางรากฐานวิชาดวง 8 ตัว จนถูกเรียกว่า “子平八字”

  • หลี่ซูจง, กัวหยู่ → นักพยากรณ์ราชสำนักผู้สืบทอดแนวคิดเรื่องชี่-ธาตุ

6.  การแพร่เข้าสู่โลกปัจจุบัน

  • ในประเทศจีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง และสิงคโปร์ วิชานี้ยังใช้จริงในระดับครอบครัวถึงองค์กรใหญ่

  • มีการใช้ร่วมกับศาสตร์อื่น เช่น ฮวงจุ้ย, การตั้งชื่อ, ฤกษ์คลอด, การจับซิ้งวางอาชีพ

  • ปัจจุบันมีการสอนดวงจีนทั้งในระดับ “ดวงเปล่า” และ “ดวงพลังชีวิต (用神學派)”

  • ในไทย มีปรมาจารย์และอาจารย์หลายท่านที่ศึกษาลึกและเผยแพร่สู่ประชาชน 

 

ดวงจีนไม่ใช่ศาสตร์แห่งโชคชะตา แต่คือศาสตร์แห่งการเข้าใจ “พลังฟ้า–ดิน–คน” ที่สอดประสานกัน
เพื่อให้เรามีสติ ใช้ชีวิตให้เหมาะกับ “เวลา พลัง และทิศทาง”