วันจม

วันจม

วันที่แม้จะดูนิ่งเงียบ แต่กลับเต็มไปด้วยแรงเหนี่ยวถ่วงที่มองไม่เห็น ความหมายของโหราศาสตร์โหรไทย คำว่า “วันจม” ไม่ได้หมายถึงการจมน้ำหรือหายไปทางกายภาพ หากแต่หมายถึง “วันแห่งการหยุดนิ่ง ถ่วงต่ำ และถอยหลัง” เป็นวันที่การกระทำใด ๆ จะ ไร้แรงส่ง เหมือนพายเรือวนในบึง หาทางออกไม่เจอ   โบราณจึงเปรียบว่า...

“วันจม เหมือนหย่อนสมอท่ามกลางลม—ต่อให้เรือแล่นดีเพียงใด สุดท้ายก็อยู่ที่เดิม”

ลักษณะเฉพาะของวันจม วันจมเป็นดิถีร้ายที่ขึ้นชื่อว่า ทำให้กิจการทุกอย่าง “ไม่เดินหน้า” หรือ “สะดุดแบบไร้เหตุผล” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

กิจกรรมที่ไม่ควรทำในวันจม ได้แก่:

เปิดกิจการใหม่ หรือเริ่มต้นธุรกิจ เปิดบัญชี ลงทุน ขยายสาขา เจรจาสำคัญ วางแผนการเงิน การตลาด ขึ้นบ้านใหม่ เปลี่ยนชื่อ หรือย้ายงาน สิ่งที่เริ่มในวันนี้ มักไม่มีแรงผลักพอจะเติบโต หรือเติบโตไปได้ชั่วครู่แล้วแผ่วลง คล้ายเมล็ดพันธุ์ที่งอกในดินตื้น ไม่มีน้ำซึมถึงราก จุดเด่นของวันจม: พลังถ่วงในจิตและสภาพแวดล้อม หนึ่งในลักษณะของวันจมคือ ความรู้สึก อ่อนแรงโดยไร้สาเหตุ เช่น นอนไม่พอทั้งที่หลับเต็มที่ ขาดแรงจูงใจทำสิ่งที่เคยชอบ ติดต่อใครก็ไม่ค่อยได้ คำตอบไม่ชัด คนเลื่อนนัดแบบไร้เหตุผล ประชุมหลายรอบแต่ไม่ลงข้อสรุป หรือสรุปแล้วก็ย้อนกลับไปเริ่มใหม่ วันจมจึงไม่เหมาะกับการ “เคลื่อนไหว” ในระดับสำคัญ เพราะพลังของวันจะ “ดูดซับ” ความตั้งใจดีให้จมลงไปโดยไม่เกิดผลจริง วันจมในตำราโหราศาสตร์ไทย วันจมไม่ได้ปรากฏแบบตรง ๆ ในปฏิทินจันทรคติ แต่จะสัมพันธ์กับ... ฤกษ์จม หรือวันที่ “ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง” เสียพร้อมกัน วันจันทร์ขาลง (Waning Moon) ที่ไม่มีฤกษ์สนับสนุนทางจิตวิญญาณ วันแรมในช่วงกลางเดือนจันทรคติ เช่น แรม 9 – แรม 12 ค่ำ ผู้เชี่ยวชาญฤกษ์ยามมักจะคัดฤกษ์หลีกเลี่ยงวันจมโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะในงานเปิดร้าน เปิดกิจการ หรือตั้งชื่อบริษัท ความเชื่อเสริมในสายล้านนาและจีน ในสายล้านนา วันจมถือเป็น “วันมืดใจ” ไม่เหมาะกับการครุ่นคิดหรือวางแผนใด ๆ เพราะผลจะออกมาไม่ตรงกับเจตนา ในคติจีน ตรงกับแนวคิด “วันตัดพลังธาตุ” ซึ่งธาตุประจำตัวของบุคคลจะถูกพลังวันเบียดทับจนแผ่วลง ส่งผลให้กิจกรรมที่ทำ “จบในความนิ่ง” วิธีหลีกเลี่ยงหรือประคองพลังในวันจม หลีกเลี่ยง การเริ่มงานสำคัญ การกระทำที่ต้องการ “พลังขับเคลื่อน” เช่น การขายของออนไลน์ เปิดตัวสินค้าใหม่ การเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบเร่งด่วน

วิธีใช้ประโยชน์ ทบทวนแผนงาน วางรากฐานใหม่ให้มั่นคง ทำความสะอาด ปรับพื้นที่ เช่น จัดโต๊ะทำงาน ปรับหิ้งพระ ทำสมาธิ ปล่อยวาง เพื่อให้ใจกลับมาอยู่ในจุดสมดุล เขียนบันทึก หรือสวดมนต์แบบ “นิ่งลึก” เช่น พระคาถาชินบัญชร หรือพุทธชัยมงคลคาถา

สรุป วันจม ไม่ใช่วันแห่งความพินาศ แต่คือ วันแห่งการนิ่งที่ไม่ควรขยับ ถ้าเรารู้จังหวะ ก็สามารถใช้วันจมเป็น “วันพักพลัง” เพื่อสร้างแรงผลักที่ยิ่งใหญ่ในวันถัดไป

โบราณจึงกล่าวไว้ว่า...

“วันจม ไม่ใช่วันเสีย หากใช้เป็น—จะกลายเป็นวันแห่งการก่อเกิดอย่างสงบ”