เมื่อหมอดูไม่แม่น

เมื่อหมอดูไม่แม่น กรรมดีพลิกเปลี่ยนชะตาชีวิต

คำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับหมอดูและโหราศาสตร์คือ “คำทำนายเปลี่ยนโชคชะตาได้จริงหรือ?” มีคำกล่าวโบราณที่ว่า “หมอดูไม่แม่น” เพราะคำทำนายแม้จะช่วยชี้ทิศทางหรือเตือนสติ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนลิขิตชีวิตได้ทั้งหมด ความเชื่อหนึ่งที่แพร่หลายในสังคมเอเชียคือการกระทำดีหรือการสร้างบุญกุศลที่แท้จริง จะช่วย “เปลี่ยนชะตา” หรือ “พลิกชีวิต” ได้มากกว่าคำทำนายใด ๆ เสียอีก ตำนานของ “ลิ่มจื้อ” และการพลิกชะตาด้วยกรรมดี หนึ่งในเรื่องราวที่เล่าขานกันมานานในวงการโหราศาสตร์คือเรื่องของ “ลิ่มจื้อ” ผู้เป็นคหบดีใหญ่และเป็นนักโหราศาสตร์ที่เก่งกาจมีชื่อเสียงมากที่สุดในมณฑลกวางเจา ประเทศจีน เมื่อกว่า 600 ปีก่อน ลิ่มจื้อเป็นคนใฝ่รู้ชอบค้นคว้าวิชาดาราศาสตร์เพื่อคำนวณและทำนายโชคชะตาชีวิตและการทำนายของเขาถือว่าแม่นยำแทบไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว  มาวันหนึ่งเขาได้ดูโหงวเฮ้งและดวงชะตาของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างในร้าน  ลิ่มจื้อพบว่าตามตำราที่เขาศึกษามานั้น ชายหนุ่มผู้นี้ จะถึงฆาตภายในเวลาไม่เกิน 15 วันอย่างแน่นอน แต่ด้วยความสงสาร ลิ่มจื้อจึงมอบเงินก้อนหนึ่งให้ชายหนุ่ม พร้อมอนุญาตให้เขากลับไปเยี่ยมครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย โดยลิ่มจื้อหวังว่าชายหนุ่มจะได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตอย่างสงบกับครอบครัวโดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ชะตากรรมของตน ระหว่างการเดินทางกลับบ้าน ชายหนุ่มได้พบเหตุการณ์หลายอย่าง เหมือนสวรรค์กำลังทดสอบความเมตตาของเขา เขาเห็นปลาใหญ่ตัวหนึ่งติดอยู่ในบึงน้ำที่ใกล้แห้งเหือด เขาจึงจับมันและนำไปปล่อยในแหล่งน้ำที่ใหญ่และปลอดภัย เดินทางต่อมาเขาก็พบแมวตัวหนึ่งกำลังจะจมน้ำ เขาก็ได้เข้าไปช่วยชีวิตแมวตัวนั้นไว้ และเมื่อผ่านบ้านผู้ยากไร้ เห็นหญิงชราผู้ยากไร้กำลังโศกเศร้าที่ทำตะเกียงของศาลเจ้าแตก เขาก็ไม่ลังเลใจที่จะให้มอบเงินที่ลิ่มจื้อให้เขา มอบให้แก่หญิงชราไปซื้อตะเกียงใหม่มาแทนในศาลเจ้าแห่งนั้น ความจิตใจที่เมตตาและการกระทำดีเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่ฟ้าเบื้องบนกลับเห็น.. และได้เปลี่ยนเส้นทางของโชคชะตาของเขาอย่างน่าทึ่ง การกลับมาที่ไม่คาดคิด คำทำนายที่คลาดเคลื่อน เมื่อครบกำหนด 15 วัน ชายหนุ่มกลับมาทำงานตามปกติ ลิ่มจื้อถึงกับตกใจ แทบไม่เชื่อสายตาว่าชายหนุ่มรอดชีวิตมาได้อย่างไร ลิ่มจื้อจึงซักถามถึงเหตุการณ์กับชายหนุ่มว่า ระหว่างทางไปพบเจอกับอะไรมาบ้าง ชายหนุ่มก็เล่าเรื่องราวการช่วยเหลือปลา ช่วยเหลือแมวและหญิงชราให้ฟัง ลิ่มจื้อฟังจึงเข้าใจและเกิดความกระจ่างแจ้งทันที ยอมรับว่าคำทำนายในตำราโหราศาสตร์ที่เขาเชื่อมั่นมาตลอดชีวิตนั้น ไม่อาจลิขิตชีวิตของมนุษย์ได้ เพราะการกระทำความดี จะเป็นเกราะคุ้มกันภัย ช่วยปกป้องให้ผู้นั้นพ้นจากเคราะห์กรรมที่ทำนายไว้ได้ ด้วยความสลดใจในความไม่แน่นอนของโหราศาสตร์ ลิ่มจื้อตัดสินใจนำตำราทั้งหมดไปเผาทิ้ง พร้อมกล่าวกับชายหนุ่มว่า “เจ้าได้สร้างกรรมดีและบุญกุศล บุญนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเจ้าแล้ว ทำให้เจ้ารอดพ้นจากชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้ และคำทำนายที่ข้าศึกษามาทั้งชีวิตนั้น ไม่มีผลใดๆ กับเจ้าอีกต่อไป”

ทำดี ดีกว่าดวงดี

เรื่องราวของลิ่มจื้อสะท้อนความเชื่อที่ว่า การกระทำดีมีพลังมากกว่าคำทำนายใดๆ ในชีวิตประจำวันของเราเอง บางครั้งคำทำนายอาจเป็นเพียงคำเตือนเพื่อให้เราตระหนักถึงอนาคต แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่จะกำหนดชะตาชีวิตคือการกระทำที่ดี ความเมตตา และความตั้งใจสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตและผู้อื่น การทำดี ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือสัตว์เล็ก ๆ หรือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก อาจไม่ใช่เพียงการทำเพื่อคนอื่น แต่เป็นการสร้างเกราะคุ้มครองตัวเราเอง ทำให้พ้นจากอุปสรรคและเคราะห์กรรมในอนาคต อานิสงส์ของการกระทำดีจะสะท้อนกลับมาส่งผลในยามที่เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ชีวิตที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการกระทำที่ดี ย่อมเจริญรุ่งเรืองและปลอดภัย

บุญกุศลคือชะตาที่แท้จริงของเรา การทำดีคือเกราะคุ้มกันชีวิต คำทำนายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในตำราโหราศาสตร์ แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำที่เราสร้างไว้

อ.วรุณวิชญ์  วงศ์จตุพัฒน์

๕ พฤษภาคม ๒๕๔๘