ดวงแตก ดวงร้าว ดวงพินทุบาทว์

 
ดวงพินทุบาทว์ หรือดวงภินทุบาทว์ 
(ดวงแตก)
 

"ดวงพินทุบาทว์" เป็นเกณฑ์ร้ายในโหราศาสตร์ไทยที่กล่าวถึงตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่ส่งผลเสียต่อดวงชะตา โดยเฉพาะเมื่อดาวเหล่านั้นอยู่ในเรือนที่ไม่เกื้อกูลหรือส่งผลในทางลบต่อชีวิต เช่น เรือนมรณะ (เรือนที่ 8), เรือนวินาสน์ (เรือนที่ 12) หรือเรือนที่ทำลายสมดุลของลัคนา

คำว่า "พินทุ" แปลว่า จุด ส่วน "อุบาทว์" แปลว่า ความเสียหายหรือความมืดบอด เมื่อนำมารวมกัน "พินทุบาทว์" หมายถึง "จุดที่เสียหาย จุดที่มืดบอดในดวงชะตา" โดยดวงพินทุบาทว์นี้ส่งผลให้เจ้าชะตาต้องเผชิญกับปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค ความทุกข์ยาก หรือการเสียหายตามความหมายของเรือนและดาวเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง

ความหมายของเกณฑ์ดวงพินทุบาทว์ในโหราศาสตร์ 

โคลงเก่าในโหราศาสตร์ได้บรรยายเกณฑ์พินทุบาทว์ไว้ดังนี้:

"ระวิภุมมะทั้ง โสรา
ปัญจะแก่ลัคนา พุธเก้า
จันทร์กับชีวา เป็นแปด
ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันดร์"

แปลความหมาย

  1. "ระวิภุมมะทั้ง โสรา"

    • ระวิ (๑): ดาวอาทิตย์

    • ภุมมะ (๓): ดาวอังคาร

    • โสรา (๔): ดาวพุธ
      หากดาวอาทิตย์ อังคาร และพุธ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีในดวงชะตา เช่น เรือนที่ 12 (วินาสน์) หรือเรือนที่ 8 (มรณะ) จะส่งผลให้เจ้าชะตาประสบกับความยุ่งยาก เช่น ปัญหาสุขภาพ ความขัดแย้ง หรืออุปสรรคในชีวิต

  2. "ปัญจะแก่ลัคนา พุธเก้า"

    • ปัญจะ (เรือนที่ 5): เรือนปุตตะ หมายถึงลูกหลาน ความสุขใจ และความคิดสร้างสรรค์

    • พุธเก้า: ดาวพุธในเรือนที่ 9 (ศุภะ) ซึ่งหมายถึงโชคลาภ ผู้ใหญ่ หรือการศึกษา
      หากดาวพุธอยู่ในเรือนเหล่านี้แต่สัมพันธ์ไม่ดี จะส่งผลให้เกิดปัญหาด้านความสำเร็จ หรือการได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่

  3. "จันทร์กับชีวา เป็นแปด"

    • จันทร์ (๒): ดวงจันทร์

    • ชีวา (๘): ดาวราหู
      หากจันทร์และราหูอยู่ในเรือนที่ 8 (มรณะ) จะส่งผลในด้านลบ เช่น การสูญเสีย ความทุกข์ หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินและครอบครัว

  4. "ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันดร์"

    • ศุกร์ (๖): ดาวศุกร์

    • เจ็ด (เรือนที่ 7): เรือนปัตนิ หมายถึงคู่ครองหรือความสัมพันธ์
      หากดาวศุกร์อยู่ในเรือนปัตนิและสัมพันธ์ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาในความรัก หรือมีปัญหาที่เกิดจากคู่ครอง เช่น ความขัดแย้ง หรือความไม่มั่นคงในชีวิตคู่

       

ผลกระทบของดวงพินทุบาทว์

  1. ชีวิตส่วนตัว

    • ชีวิตประสบกับอุปสรรคใหญ่ ความยากลำบากในชีวิต เช่น ปัญหาสุขภาพ หรือความทุกข์ใจจากคนใกล้ตัว

  2. ด้านความสัมพันธ์

    • ปัญหาในความรักหรือคู่ครอง เช่น ความขัดแย้ง การเลิกรา หรือการสูญเสียคู่

  3. การงานและการเงิน

    • การงานติดขัด มีปัญหาในการทำธุรกิจ

    • การเงินไม่มั่นคง มีรายจ่ายที่ไม่คาดคิด หรือสูญเสียทรัพย์

  4. ด้านสังคมและครอบครัว

    • ความสัมพันธ์ในครอบครัวมีปัญหา ขัดแย้งกับญาติพี่น้อง หรือขาดการสนับสนุน

 
คือนับจากลัคนาไป มีดาว      ๑ ๓ ๗  เป็น   ๕  แก่ลัคนา
        ,,                    ,,         ๒ ๕    ,,     ๘       ,,
        ,,                    ,,            ๔    ,,     ๙        ,,
        ,,                    ,,            ๖    ,,     ๗        ,,
 
 
เสาร์เพ่งเล็งลัคนาแล้ว        อสุรา
 
ภุมเมนทร์อัษฎา             ว่าไว้
 
จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่รา-        หูเล่า
 
อาภัพอัปภาคย์ให้       ให้แท้ประเทินเหิน
 

แปลความหมายกลอนได้ดังนี้

"เสาร์เพ่งเล็งลัคนาแล้ว อสุรา"

  • เสาร์ (๗) เป็นดาวบาปเคราะห์ที่ส่งผลด้านความทุกข์ ความลำบาก และอุปสรรค
  • หากดาวเสาร์อยู่ในตำแหน่งที่ เพ่งเล็งลัคนา (ตรงข้ามลัคนาในดวงชะตา) จะส่งผลให้เจ้าชะตาประสบกับความเหน็ดเหนื่อยในชีวิต มีอุปสรรคที่ต้องเผชิญอยู่เสมอ
  • เปรียบดาวเสาร์เหมือน อสุรา หรือปีศาจ ที่นำพาความลำบากมาสู่ชีวิต

"ภุมเมนทร์อัษฎา ว่าไว้"

  • ภุมเมนทร์ (๓): หมายถึง ดาวอังคาร
  • อัษฎา: หมายถึงเรือนที่ 8 (มรณะ)
  • หากดาวอังคารอยู่ในเรือนมรณะ จะส่งผลให้เจ้าชะตาประสบกับความสูญเสียหรือเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่น ปัญหาการเงิน สุขภาพ หรือความขัดแย้งรุนแรง

"จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่รา- หูเล่า"

  • จันทร์ (๒): หมายถึง ดวงจันทร์
  • สิบเอ็ดแก่ราหู: หมายถึง ดวงจันทร์อยู่ในเรือนที่ 11 (ลาภะ) แต่ได้รับอิทธิพลจาก ดาวราหู (๘) ซึ่งเป็นดาวแห่งความลุ่มหลงและความสับสน
  • อิทธิพลนี้อาจทำให้เจ้าชะตามีความลุ่มหลงในสิ่งผิดๆ หรือเผชิญกับความเสียหายในด้านลาภผล

"อาภัพอัปภาคย์ให้ ให้แท้ประเทินเหิน"

  • เมื่อดาวเสาร์ ดาวอังคาร และดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีหรือถูกกระทบในลักษณะนี้ จะส่งผลให้เจ้าชะตา อาภัพอัปภาคย์ หมายถึง ชีวิตที่ขาดความสุข ประสบกับความยากลำบาก และเผชิญกับปัญหาที่กดดัน
  • คำว่า ประเทินเหิน บ่งบอกถึงการเผชิญกับอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง ไม่มีความมั่นคง

สรุปความหมายกลอนนี้เตือนถึงมีเกณฑ์ร้ายแรงหาก..

  1. ดาวเสาร์ เพ่งเล็งลัคนา → ชีวิตจะเผชิญกับความทุกข์และอุปสรรคใหญ่
  2. ดาวอังคารในเรือนมรณะ (ที่ 8): จะประสบกับความสูญเสียหรือความทุกข์รุนแรง
  3. ดวงจันทร์สัมพันธ์กับราหูในเรือนที่ 11: ความลุ่มหลงหรือสิ่งไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่อชีวิต

ผลกระทบ

  • เจ้าชะตามักประสบกับความยากลำบาก อุปสรรคใหญ่ในชีวิต และอาจมีความล้มเหลวในด้านต่างๆ หากไม่มีการแก้ไขหรือปรับตัว
 
คือ นับจากลัคนาไป  มีดาว ๗ ๘  เป็น  ๗  แก่ลัคนา
         ,,                    ,,      ๓  ๘  เป็น  ๘  แก่ลัคนา
 
และนับจากจันทร์ ไปหาราหู หรือราหูไปหาจันทร์ เป็น  ๑๑  แก่กัน คือราหู กับ จันทร์ โยคกันนั่นเอง จะโยคหน้า โยคหลัง เรียกว่า  ๑๑  แก่กัน
      
เกณฑ์ดวงพินทุบาทว์ ยังมีอื่น ๆ อีก แต่ท่านมิได้เขียนเป็นโคลงไว้ เช่น
 
๑.  ดาวเคราะห์       ๒  ๖  ๔  ๕       กุมลัคนา
๒.      ,,               ๓  ๘  ๗  ๑       เล็งลัคนา
๓.      ,,               ๑  ๓  ๔            เป็น   ๓  หรือ เป็น  ๑๒  แก่ลัคนา
๔.      ,,               ๒  ๕               เป็น   ๘  หรือเป็น   ๑๒  แก่ลัคนา
๕.      ,,               ๖                    เป็น    ๑๒    แก่ลัคนา
๖.       ,,              ๗                    เป็น    ๑๒    แก่ลัคนา
๗.      ,,               ๘                    เป็น   ๒  ๔  ๑๒  แก่ลัคนา
๘.  ดาวเคราะห์ที่อยู่หน้าเสาร์ หรือ หลังเสาร์
 
ข้อสังเกต  มีโหรกล่าวอยู่คำหนึ่งว่า “จันทร์ล่าราหู ราหูล่าจันทร์” หมายความว่าเมื่อจันทร์โยคหน้าราหู คือ เป็น ๓ กับราหู จันทร์จะทำราหูให้เสียเอาตามนิสัย  คือ ก็จะทำให้เป็นคนหลงคนง่าย ใครอ้อนวอนไม่ได้เป็นใจอ่อนรีบช่วยเหลือทันที ผลสุดท้ายตัวเองกลับได้รับความลำบากทุกทีและเมื่อจันทร์โยคหลังราหู คือ เป็น ๑๑ แก่ราหู  ราหูจะทำจันทร์เสีย คือมีรูปร่างไม่สวย  มีกิริยาไม่น่าดู มีร่างกายไม่แข็งแรง ขี้โรค เป็นต้น
 
ข้อสังเกตดวงเกณฑ์  และ ดวงพินทุบาทว์
คือดวงเกณฑ์และดวงพินทุบาทว์ ดาวเคราะห์ตัวซ้ำกัน เช่นเป็นทั้งดวงเกณฑ์และเป็นทั้งพินทุบาทว์  ฉะนั้นต้องพยากรณ์ควบกันไป เช่น  ดาวอังคาร  ดาวเสาร์ ในราศีอัมพุถ้าเป็น  ๕  แก่ลัคนา ว่าเป็นอุดมเกณฑ์ แต่ทางพินทุบาทว์  ว่าเป็นพินทุบาทว์ ต้องพยากรณ์ทั้งดีและเสีย  เช่น ลัคนาอยู่มีน  อังคารเป็น ๕  แก่ลัคนาราศีกรกฎ  เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องพยากรณ์ว่า เป็นคนที่หาเงินได้แคล่วคล่อง มีเงินใช้ไม่ขาด มีโอกาสได้กุมเงินก้อนใหญ่ ๆ  เพราะอังคารเป็นเจ้าเรือน กฎุมพะ ส่วนเสียก็พยากรณ์ว่า เงินที่ได้นั้นกว่าจะได้ก็แทบแย่ เมื่อได้มาแล้วก็เก็บไม่อยู่  หรือเงนนั้นไม่ใช่ของตนเอง เป็นของคนอื่นที่ต้องเก็บไว้ เหมือนมดแดง เฝ้ามะม่วง  ทำให้มีความสุขใจไม่มีความสุขในเรื่องเงินทองสมบัติที่ตนมีเลย
 
หรือ เช่น ลัคนาอยู่ราศี มีน เสาร์ เป็น  ๕ อยู่ราศีกรกฎ เสาร์ เป็น เจ้าเรือนลาภะ ส่วนดี ก็พยากรณ์ว่า เป็นคนหาลาภได้คล่องมีรายได้ไม่ขาด ส่วนเสีย ก็ว่า ลาภนั้นที่ได้เป็นของไม่บริสุทธิ์และปลอดภัย ถ้าจะพยากรณ์เสียตามเรือนชาตา เรือน ปุตตะเป็นเรือนแห่งความอิ่มเอิบใจ พอใจ ก็พยากรณ์ว่า ไม่มีความสุขใจความพอใจในเรื่องรายได้ หงุดหงิด ใจเหี่ยวแห้งเสมอ หรือ พยากรณ์ว่า บุตรนำลาภที่ไม่บริสุทธิ์มาให้  ทำให้ดีใจและเสียใจปนกัน เป็นเหตุที่ทำให้ในคอหงุดหงิด
 

แนวทางการบรรเทา

  • การทำบุญเสริมดวง: บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ทำบุญเกี่ยวกับแสงสว่าง หรือสร้างสิ่งที่มั่นคงถาวร เช่น สะพาน หรืออาคาร
  • การแก้เคล็ดด้วยโหราศาสตร์: ปรึกษาโหราจารย์เพื่อหาวิธีเสริมดวง เช่น การสวดมนต์เฉพาะบทหรือการบูชาดาวที่ให้คุณ
  • การปรับตัวทางจิตใจ: เสริมสร้างความอดทนและใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง
เป็นคำแนะนำที่แฝงด้วยปัญญา ให้เจ้าชะตาเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายและหาวิธีบรรเทาอิทธิพลจากดาวร้ายในดวงชะตา