บทกรวดน้ำ

 

"กรวดน้ำ" สะพานแห่งบุญที่เชื่อมโยงสองภพ

ในสังคมไทยที่หล่อหลอมด้วยพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง พิธีกรรมหนึ่งที่ฝังรากอยู่ในชีวิตประจำวันของพุทธศาสนิกชน คือ “การกรวดน้ำ” อันเป็นภาษาชาวบ้านที่ใช้เรียกการ “อุทิศส่วนกุศล” ด้วยการหลั่งน้ำลงบนพื้นดินหรือภาชนะรองรับ เป็นการแสดงออกทางรูปธรรมถึงความตั้งใจส่งบุญให้แก่ผู้ล่วงลับ ทั้งญาติพี่น้อง ครูอาจารย์ หรือแม้แต่สรรพสัตว์ทั้งหลาย

ความหมายเบื้องลึกของการกรวดน้ำ

คำว่า “กรวดน้ำ” ไม่ใช่เพียงการรินน้ำจากภาชนะหนึ่งลงสู่อีกภาชนะหนึ่ง แต่คือการรวมกระแสจิตที่แน่วแน่ในความเมตตา อธิษฐานตั้งใจให้บุญที่ตนได้ทำ สำเร็จแก่ผู้ที่ตนต้องการอุทิศให้ เปรียบประดุจสะพานบุญที่ทอดผ่านระหว่างโลกของผู้มีชีวิตและผู้ล่วงลับไปแล้ว

ในคติทางพระพุทธศาสนา เชื่อว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” และผู้ที่ตายไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภพภูมิที่ลำบาก ย่อมรอคอย “ส่วนบุญ” ที่ลูกหลานหรือผู้มีใจเมตตาส่งไปให้ การกรวดน้ำจึงเป็นการสื่อสารด้วยจิตที่เปี่ยมด้วยกรุณา ช่วยให้ผู้ตายได้มีโอกาสได้รับพลังแห่งบุญมาหนุนนำจิตวิญญาณ

พิธีกรวดน้ำ: ขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนและมีนัยยะ

1. เตรียมน้ำสะอาดไว้ในภาชนะที่เหมาะสม
เช่น คณฑี ขันน้ำ แก้วใส หรือขวดเล็กๆ โดยให้ใช้น้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ แสดงถึงใจที่บริสุทธิ์เช่นกัน

2. ตั้งจิตให้แน่วแน่
ก่อนเริ่มกรวดน้ำ ควรตั้งจิตระลึกถึงบุญที่เพิ่งได้กระทำ เช่น การถวายภัตตาหาร การใส่บาตร การทำทาน หรือการสวดมนต์ และตั้งเจตนาอุทิศบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับอย่างชัดเจน

3. เริ่มรินน้ำเมื่อพระเริ่มบทอนุโมทนา
ในพิธีกรรมทางศาสนา เมื่อพระสงฆ์เริ่มกล่าวบท “ยถา วาริวะหา ปูรา...” ให้เริ่มรินน้ำจากภาชนะอย่างช้า ๆ ด้วยมือขวา มือซ้ายประคอง พร้อมภาวนาหรือกล่าวบทกรวดน้ำในใจ

4. เมื่อพระรูปที่ 2 กล่าว “สัพพีติโย...” ให้หยุดหลั่งน้ำทันที
ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการกรวดน้ำ แล้วเทน้ำที่เหลือในภาชนะลงในขันหรือถาดที่รองรับไว้อย่างสะอาด

5. นำน้ำกรวดไปรดลงบนพื้นดิน
ภายหลังพิธี ควรนำน้ำกรวดไปรินลงบนพื้นดินในที่สะอาด เพราะดินถือเป็นธาตุที่รับสักขีพยานได้ดีที่สุดในทางธรรม ห้ามใช้กระโถนหรือภาชนะสกปรกใด ๆ เป็นอันขาด

บทกรวดน้ำ พร้อมคำแปลความหมาย

“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนฺตุ ญาตะโย”
• “ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
ขอญาติทั้งหลายนั้น จงมีความสุข”

“อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชชะยา จะ เม มาตา ปิตา จะ ญาตะกา
สุขิตา โหนตุ เม สัพเพ”

• “ด้วยบุญกุศลนี้ ขอให้ครูอุปัชฌาย์ มารดา บิดา และญาติทั้งหลาย
จงเป็นผู้มีความสุข”

กรวดน้ำไม่ได้จำกัดแค่กับผู้ล่วงลับ

แม้โดยทั่วไป การกรวดน้ำมักกระทำเพื่ออุทิศบุญให้ผู้ที่ตายไปแล้ว แต่ในอีกแง่หนึ่ง การกรวดน้ำสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองหรือผู้อื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาประจำตัว หรือผู้ที่กำลังประสบทุกข์ เพื่อให้เกิดเมตตาและการคลี่คลายกรรม

การกรวดน้ำ คือ สัญลักษณ์ของความรักและความกตัญญู

การกรวดน้ำไม่ใช่เพียงพิธีกรรมทางศาสนา หากแต่เป็น “การแสดงออกถึงความกตัญญู” และเป็นรูปธรรมของการมี “เมตตาธรรม” ในหัวใจ ช่วยเปิดประตูบุญให้ทั้งผู้ให้และผู้รับต่างได้มีโอกาสพ้นจากทุกข์ หรือได้รับพลังแห่งบุญมาส่งเสริมชีวิตในภพภูมิของตน

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พิธีกรวดน้ำยังคงอยู่ในหัวใจของชาวพุทธเสมอ เป็นดั่งสายใยที่เชื่อมโยงความดี ความรัก และความทรงจำไว้ด้วยกันอย่างงดงาม

 
 

บทกรวดน้ำแบบที่ ๑

 

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา 
(ด้วยบุญนี้ อุททิศให้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ)

อาจะริยูปะการาจะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา  (ปิยา มะมัง) 
(และอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ และปวงญาติ)

สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ 
(สูรย์จันทร์ และราชา ผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ)

พรัหมะมารา จะ อินทา จะ โลกะปาลา จะ เทวะตา 
(พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล)

ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
(ยมราช มนุษย์มิตร ผุ้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ)

สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม 
(ขอให้สุขศานติ์ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน บุญผองที่ข้าทำจงอำนวยศุภผล)

สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง 
(ให้สุขสามอย่างล้น ให้ลุถึงนิพพานพลัน)

 

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ 
(ด้วยบุญนี้ที่เราทำ และอุทิศให้ปวงสัตว์)

ขิปปังหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง 
(เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน)

เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง 
(สิ่งชั่วในดวงใจ กว่าเราจะถึงนิพพาน)

นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว 
(มลายสิ้นจากสันดาน ทุกๆ ภพ ที่เราเกิด)

อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา 
(มีจิตตรง และสติปัญญาอันประเสริฐ พร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย)

มารา ละภันตะ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม 
(โอกาสอย่าพึงมี แก่หมูมารทั้งสิ้นทั้งหลาย เป็นช่อง ประทุษร้ายทำลายล้างความเพียรจม)

พุทธาทิปะวะโร นาโถธัมโม นาโถ วะรุตตะโม 
(พระพุทธผู้วรนาถ พระธรรมที่พึ่งอุดม)

นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง 
(พระปัจเจกะพุทะสมทบ พระสงฆ์ ที่ผึ่งพยอง)

เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา 
(ด้วยอานุภาพนั้น อย่าเปิดโอกาสให้แก่มาร  เทอญ)

 
 

บทกรวดน้ำแบบที่ ๒

 

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข)

อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข)

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข)

อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข)

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข)

อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข)

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
(ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข)

 

 

 

บทกรวดน้ำแบบที่ ๓

คำอุทิศส่วนกุศล
(ของวัดสุทัศน์)

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)

ขอเดชะตั่งจิตอุทิศผล   บุญกุศลแผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดามารดาครูอาจารย์   ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนเคยรักเคยชังแต่ครั้งไหน    ขอให้ได้บุญกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ    ขอให้ท่านได้กุศลและผลบุญ
อีกปู่ย่าตายายทั้งหลายนั้น    ขอให้ท่านได้กุศลผลอุดหนุน
ทหารตำรวจตรวจแดนไทยจงได้บุญ  ช่วยป้องกันศัตรูภัยได้บุญนี้
สำหรับท่านหมั่นปฏิบัติวิปัสสนา   ขอให้พาได้พบสุขทุกวิถี
ประสบพบนิพพานของญาณมุนี   ในชาตินี้มีมรรคผลทุกคนเทอญ

 

บุญกุศลที่ได้ทำในครั้งนี้   จงสำเร็จเป็นปัจจัยไร้ราคี
ให้ฉันนี้พ้นกิเลสเขตกันดาร   หากมิสำเร็จพระอรหันต์
ตัวของฉันอย่าได้พบความขัดสน   พร้อมทวยเทพและสวรรค์จนบันดล
ให้เลิศล้นทรัพย์ยศปรากฏมี   ความไม่มีอย่าบังเกิดกับตัวฉัน
ทุกสิ่งสรรค์พร้อมมูลบุญราศี   คนใจบาปหยาบช้าไร้ปรานี
จงหลีกหนีให้พ้นคนใจมาร   ยามสิ้นบุญข้าน้อยถ้าคล้อยคลาด
หากประมาทขาดสติมิประสาน   ขอเทวาอารักษ์ชักบันดาล
โปรดประทานสติมั่นแก่ฉันเทอญ

 

 

บทกรวดน้ำแบบที่ ๔
 
เป็นบทกรวดน้ำอีกบทหนึ่งที่มีคนนิยม และอยากแนะนำให้นำไปใช้
เพื่อเป็นการเปิดทางแก้ไขกรรม และช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก่อนกรวดน้ำต้องเตรียมน้ำสะอาด 1 ขัน หรือ1ขวด  
เมื่อเริ่มกรวดน้ำ ให้ยกขวดน้ำหรือขันน้ำจรดระหว่างคิ้ว แล้วกล่าวบทกรวดน้ำ ดังต่อไปนี้
 
 
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)
นะ โม พุท ธา ยะ ลูกขอเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์โปรดเสด็จมาเป็นประธาน
อิ ทัง ปุญญะ พลัง (ถึงตอนนี้ให้เริ่มกรวดน้ำลงบนพื้นดิน) 
 
ข้าพเจ้าชื่อ... นามสกุล.......ขอฝากน้ำอันบริสุทธิ์นี้ไปกับแม่พระคงคา แม่พระธรณี  ขอแม่พระธรณีโปรดมาเป็นทิพพยานรับรู้ด้วยเถิด 
อานิสงค์ผลบุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำในวันนี้ ทั้งหมดทั้งปวง ข้าพเจ้าฯ ขออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังเบียดเบียนข้าพเจ้าอยู่ ณ ปัจจุบันที่ทำให้ข้าพเจ้าเกิดทุกข์.... (เรื่องที่ประสบปัญหา) ไม่ว่าท่านจะมาจาก ภพใด ชาติใด อยู่ภพใด ภูมิใดก็ตาม ทั้งระลึกได้และระลึกไม่ได้ก็ดี ขอให้ท่านจงมารับบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ในครั้งนี้ โดยมาให้ถึงจุดหมาย อย่าแวะ อย่าเวียนที่ใด ให้กุศลถึงทั่ว ทุกท่าน ทุกตัวตน ทุกภพ และทุกภูมิ  ขออานิสงค์ผลบุญดังกล่าวนี้กลายเป็นโภคทรัพย์ ตามที่ท่านปราถนาทุกประการ
 
เมื่อทุกท่านได้อนุโมทนาบุญดังกล่าวนี้แล้ว โปรดอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ขอให้หยุด อาฆาต พยาบาท จองเวรจองกรรมหรือเบียดเบียนข้าพเจ้าต่อไปอีกเลย ขอให้ท่านได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปและโปรดช่วยเปิดทางให้ข้าพเจ้าผ่านพ้นปัญหา ... ที่ข้าพเจ้ากำลัง ประสบอยู่ ณ ตอนนี้ ให้หมดสิ้นไป อย่าหลงเหลือตั้งแต่บัดนี้/เวลานี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ
 
หมายเหตุ
  •  การกรวดน้ำลงดินกุศลจะส่งถึงเร็วกว่าการกรวดน้ำแห้ง คือ เพียงอธิษฐานจิต สำหรับผู้ที่บารมียังไม่มากพอ
  •  การขอฝากผ่านบารมีของพระแม่คงคาและพระแม่ธรณีไปสิ่งสำคัญมาก
  •  ระหว่างท่องคำกรวดน้ำด้านบน ให้เทน้ำลงดินตลอดจนจบคำกรวดน้ำ
 
ไม่ว่าน้ำจะเหลือมากน้อยเพียงใดให้เทให้หมดพร้อมกับคำพูดสุดท้ายที่จบ โดยไม่ต้องให้หลงเหลือ  
ถ้ามี ชื่อ-สกุล ของเจ้ากรรมนายเวร สามารถระบุเจาะจงลงไปได้เลย...