การสร้างดวงเมืองของประเทศไทย (ดวงกรุงเทพมหานคร) เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ไทยโดยตรง ซึ่งนักพยากรณ์ทั้งหลายจะใช้เพื่อการพยากรณ์หรืออธิบายเหตุการณ์สำคัญๆ ในระดับชาติ
: การก่อตั้งเมืองฯ กรุงเทพฯ ปรากฎในปูมโหร(ซึ่งมีรายละเอียดเล่าอยู่ในเว็บนี้แล้วผมจะไม่เล่าซ้ำอีก) ถือกำเนิดเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06:54 น. ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จ.ศ. 1144 สามารถอธิบายได้ตามหลักโหราศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นการวางฤกษ์สร้างเมืองใหม่ของกรุงรัตนโกสินทร์ หรือที่เรารู้จักในปัจจุบันคือกรุงเทพมหานคร โดยดวงเมืองนี้มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้ครับ
1. โครงสร้างพื้นฐานของดวงเมือง : ลัคนา (Ascendant) อยู่ในราศีเมษ โดยราศีเมษเป็นราศีที่มีลักษณะของการเริ่มต้นใหม่ เป็นพลังงานของความกล้าหาญ ความกระตือรือร้น ความเป็นผู้นำ และการต่อสู้ ดังนั้น การสร้างกรุงเทพฯ จึงถือเป็นการก่อตั้งราชธานีใหม่หลังจากการสิ้นสุดของกรุงศรีอยุธยา ดวงเมืองในราศีเมษจึงบ่งบอกถึงความตั้งใจที่จะสร้างเมืองที่แข็งแกร่ง เป็นที่มั่นคงสำหรับชาวสยาม วันอาทิตย์: การเลือกวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นวันของดาวอาทิตย์ สัญลักษณ์ของอำนาจ ความรุ่งเรือง และการปกครอง เป็นการเสริมสร้างให้ดวงเมืองมีพลังอำนาจ โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารประเทศและการปกครองแบบกษัตริย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล: วันที่ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 เป็นช่วงที่ถือว่าเป็นฤกษ์แห่งการเริ่มต้นอันแข็งแกร่ง และ "ปีขาล" หรือปีเสือแสดงถึงความดุดัน และความเป็นนักสู้ ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ในช่วงเริ่มต้น
2. ดาวที่สำคัญในดวงเมือง : ดาวอาทิตย์ (๑) ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งในราศีเมษ ดาวอาทิตย์เป็นตัวแทนของอำนาจและความเป็นผู้นำ การที่ดาวอาทิตย์เด่นชัดในดวงเมืองนี้สะท้อนถึงอำนาจและความแข็งแกร่งของสถาบันกษัตริย์ในการปกครองประเทศ อีกทั้งยังบ่งบอกถึงเกียรติภูมิ ความเคารพนับถือจากนานาชาติ และบทบาทสำคัญในภูมิภาค ดาวจันทร์ (๒) อยู่ในตำแหน่งที่มีพลังที่สื่อถึงประชาชนและการปกครอง จันทร์ในดวงเมืองนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำและประชาชน มีลักษณะการปกครองที่เอื้ออาทรและความเข้าใจในชุมชน ดาวพฤหัสบดี (๕) ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งที่ส่งเสริมในด้านศีลธรรม คุณธรรม และการเป็นศูนย์กลางของศาสนา โดยประเทศไทยเป็นที่ตั้งของพระพุทธศาสนาที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ส่งเสริมให้ประชาชนมีความศรัทธาและยึดมั่นในศีลธรรมอันดีงาม ดาวอังคาร (๓) ดาวอังคารในดวงเมืองอยู่ในตำแหน่งที่มีพลังความกล้า แข็งแกร่ง และความสามารถในการต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดิน เป็นสัญลักษณ์ของพลังการทหาร และการปกป้องประเทศจากศัตรู ดาวราหู (๘) ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน เช่น สถานการณ์การเมือง ความผันผวน และความไม่แน่นอน ซึ่งจะเป็นลักษณะที่ประเทศไทยมีมาโดยตลอดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพการเมือง และการที่ต้องเผชิญกับปัญหาภายใน
3. การตีความเชิงสัญลักษณ์ : พลังแห่งการเป็นผู้นำ เนื่องจากดาวอาทิตย์และราศีเมษมีอิทธิพลต่อดวงเมืองไทยมาก ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำในภูมิภาค การมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้นำ และความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤติ รวมถึงการต้านทานอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาท้าทาย ความเข้มแข็งทางการทหาร: ดาวอังคารในดวงเมืองช่วยส่งเสริมให้ประเทศมีความเข้มแข็งในการรักษาความปลอดภัย การป้องกันประเทศ ความกล้าหาญในการเผชิญกับศัตรู และการปกป้องทรัพยากรของชาติ ความเป็นศูนย์กลางทางศาสนา: อิทธิพลของดาวพฤหัสบดีแสดงถึงการเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธและหลักศีลธรรม ประชาชนมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างความสามัคคี
4. ผลกระทบ คำทำนายในอนาคต และความผันผวนทางการเมือง : ดาวราหูที่มีบทบาทสำคัญในดวงเมือง ส่งผลให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบ่อยครั้ง มีโอกาสที่จะเกิดการสลับผู้นำ การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการปกครอง หรือการปรับปรุงระบบต่าง ๆ ตามสถานการณ์ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ประเทศไทยยังต้องเผชิญในอนาคต ความเข้มแข็งในภาคเศรษฐกิจและความยั่งยืน: แม้ว่าประเทศไทยจะมีความผันผวนในเรื่องการเมือง แต่การที่มีดาวพฤหัสบดีและดาวจันทร์เป็นส่วนสำคัญในดวงเมือง บ่งบอกถึงการมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการเติบโตที่คำนึงถึงความสมดุลของสังคม การเป็นที่ยอมรับในระดับสากล: อิทธิพลของดาวอาทิตย์แสดงถึงความมีเกียรติยศในสายตาของนานาชาติ ซึ่งหมายถึงประเทศไทยจะยังคงได้รับการยอมรับ และเป็นที่เคารพในเวทีระดับสากล
บทสรุปของดวงเมืองประเทศไทย : หรือดวงเมืองของกรุงเทพฯ ที่กำหนดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นดวงเมืองที่แข็งแกร่งและมั่นคง มีลักษณะเด่นในด้านความกล้าหาญ ความเป็นผู้นำ และความเป็นศูนย์รวมแห่งศาสนาและศีลธรรม แม้ว่าจะมีความผันผวนในด้านการเมือง แต่ประเทศนี้มีศักยภาพที่จะฝ่าฟันปัญหาไปได้ นอกจากนี้ ดวงเมืองนี้ยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โหราศาสตร์ของดวงเมืองนี้ยังคงแนะนำให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างรอบคอบและระมัดระวังต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รักษาความสามัคคีและศรัทธาในความถูกต้องตามหลักศีลธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
คำถามที่มีคนถามเข้ามาบ่อย : ในปี พ.ศ.2567-2568 ดวงดาวต่างๆ จะมีผลกระทบกับดวงเมืองประเทศไทยเรา อย่างไรบ้าง?
ผมขอตอบดังนี้ครับ : ในช่วงปี พ.ศ. 2567-2568 โหราศาสตร์ไทยมองว่าการเคลื่อนย้ายของดวงดาวต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อดวงเมืองกรุงเทพฯ หรือดวงเมืองประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
1. ผลกระทบจากดาวเสาร์ : ดาวเสาร์ย้ายเข้าสู่ราศีกุมภ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อลัคนาดวงเมือง เนื่องจากดาวเสาร์เป็นดาวแห่งข้อจำกัด การทดสอบ และการเปลี่ยนแปลง ดาวเสาร์ในราศีกุมภ์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านการปกครอง อาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำหรือโครงสร้างอำนาจ รวมถึงเกิดสถานการณ์ที่ต้องใช้การปรับตัวและอดทนต่อข้อจำกัดต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจและสังคม อาจเจอความท้าทาย เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือความตึงเครียดทางการเงิน การเคลื่อนย้ายของดาวเสาร์นี้อาจทำให้เกิดความพยายามในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ หรือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน
2. ผลกระทบจากดาวพฤหัสบดี : ดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งตรงกับตำแหน่งลัคนาของดวงเมือง ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวแห่งโชคลาภและปัญญา การเคลื่อนย้ายนี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมในเรื่องการศึกษา การพัฒนาความรู้ และโอกาสในการเติบโต การลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการเมือง อาจมีโอกาสในการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบหรือกฎหมายที่ล้ำสมัยและส่งเสริมการพัฒนา ทั้งยังมีแนวโน้มที่อาจมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการค้าและการเจรจาทางการทูต
3. ผลกระทบจากดาวราหู : ดาวราหูย้ายเข้าสู่ราศีมีน ซึ่งจะทับดาวมฤตยูของดวงเมือง ดาวราหูในราศีมีนมักส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่คาดคิดและไม่แน่นอน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมในหลายด้าน ทั้งเรื่องของสุขภาพจิต สังคม หรือสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความหวาดระแวงและการแบ่งแยก ด้านเศรษฐกิจและการเงิน อาจมีความผันผวน การลงทุนต่าง ๆ ต้องระมัดระวัง และมีแนวโน้มที่จะเจอกับการหลอกลวงหรือปัญหาที่เกี่ยวกับการจัดการความมั่นคงทางการเงิน โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
4. ผลกระทบจากดาวมฤตยู : ดาวมฤตยูโคจรในราศีพฤษภ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจ การเงิน และทรัพย์สินที่มีอยู่ ดาวมฤตยูในตำแหน่งนี้อาจเป็นสัญญาณของการพัฒนาทางเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ เช่น เทคโนโลยีทางการเงิน การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี หรือธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางทรัพยากรและการเกษตร ที่เกี่ยวกับการผลิตอาหารหรือทรัพยากรที่สำคัญของประเทศก็อาจได้รับผลกระทบ เช่น การหันมาปลูกพืชที่สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือการนำเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพิ่มมากขึ้น
5. ดาวศุกร์และดาวอังคาร : ดาวศุกร์: เป็นดาวที่เกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม และความมั่งคั่ง จะช่วยส่งเสริมให้ภาคบันเทิงและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักขึ้น ซึ่งอาจเกิดในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดาวอังคาร: ดาวแห่งความกระตือรือร้นและการต่อสู้ ส่งผลให้เกิดความกระตือรือร้นในการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของสิทธิมนุษยชน การเมือง และการเรียกร้องสิทธิทางสังคมต่าง ๆ
สรุปและคำแนะนำ :
ปี พ.ศ. 2567-2568 สำหรับดวงเมืองประเทศไทย ถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องมีการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน รวมถึงความท้าทายใหม่ ๆ ในการจัดการทรัพยากรและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเมืองจะยังมีการเปลี่ยนแปลงและต้องใช้ความอดทน โดยจะมีโอกาสในการพัฒนาทางเทคโนโลยี การเงิน และการปรับตัวเชิงนวัตกรรม ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปได้
: ในฐานะที่พวกเราฯ ประชาชนอยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงเมืองประเทศไทย การปรับตัวและพัฒนาตนเองเพื่อตอบรับกับสถานการณ์ของประเทศในช่วงปี พ.ศ. 2567-2568 เป็นสิ่งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงในดวงดาวส่งผลให้เป็นช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ดังนั้นการพัฒนาตนเองจึงควรมีลักษณะที่เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความมั่นคงทางจิตใจ และการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของสังคม
1. การเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจ : ฝึกฝนการทำสมาธิและการบริหารอารมณ์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจและเพิ่มความสามารถในการจัดการกับความเครียด การเปลี่ยนแปลงของดาวเสาร์และราหูอาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน การทำสมาธิและการฝึกหายใจสามารถช่วยให้มีจิตใจที่สงบเงียบ และไม่หวั่นไหวต่อปัญหา ฝึกการมองโลกในแง่บวกและการปรับตัว ในสถานการณ์ที่อาจมีความผันผวน การมองหาโอกาสจากวิกฤติเป็นทักษะที่สำคัญ เช่น การมองว่าในสถานการณ์ที่ท้าทาย เราจะเรียนรู้และเติบโตได้อย่างไรบ้าง
2. พัฒนาทักษะและความรู้ใหม่ๆ เพื่อเสริมโอกาสในอนาคต : การเรียนรู้ทักษะทางเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจและนวัตกรรม การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เช่น การตลาดดิจิทัล ทักษะด้านการจัดการข้อมูล (Data Management) การใช้ AI และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสทางอาชีพในสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง ทักษะด้านการเงินและการลงทุน ดาวมฤตยูและดาวเสาร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเงิน ทำให้เราต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของการบริหารจัดการเงิน การลงทุนอย่างรู้เท่าทัน เช่น ความรู้ด้านการวางแผนการเงิน การวิเคราะห์ตลาดการเงิน หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมและเสี่ยงต่ำ จะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน
3. ส่งเสริมความเข้มแข็งในความสัมพันธ์และการสร้างเครือข่ายสังคม : การสร้างเครือข่ายสังคมและการทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การร่วมมือและช่วยเหลือกันในชุมชนหรือในที่ทำงานจะช่วยให้เกิดการพัฒนาและการสร้างโอกาสใหม่ ๆ การมีเครือข่ายสังคมที่เข้มแข็งยังช่วยให้มีช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและช่วยสนับสนุนกันในยามที่เผชิญกับความท้าทาย การพัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้เราเข้าใจและสนับสนุนกัน การทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ในสังคม
4. การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต : การปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงและการท้าทายทางสังคม การรักษาจริยธรรมในหน้าที่การงานและชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญ การแสดงออกด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณธรรมจะช่วยเสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนรอบข้าง การมีจิตสาธารณะและการแบ่งปัน การช่วยเหลือชุมชนหรือการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมเป็นสิ่งที่สร้างพลังบวกและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น การมีจิตสาธารณะยังช่วยสร้างสังคมที่สนับสนุนกันในยามที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
5. เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง : การปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การปรับตัวและความยืดหยุ่นเป็นทักษะสำคัญในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในสายงานหรือการเตรียมตัวสำหรับอาชีพที่มีความต้องการสูงในยุคนี้จะช่วยให้คุณก้าวผ่านสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนได้ดีขึ้น การเตรียมแผนสำรองในด้านการเงินและอาชีพ เป็นการป้องกันตัวเองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การมีเงินออมฉุกเฉิน และการเรียนรู้เกี่ยวกับแผนสำรองทางอาชีพช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับความท้าทาย
: สรุปการพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับดวงเมืองและการเปลี่ยนแปลงในปี พ.ศ. 2567-2568 เน้นไปที่การพัฒนาความรู้ ทักษะการใช้ชีวิต การปรับตัวต่อความท้าทาย และการเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง การทำเช่นนี้จะช่วยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง ทั้งยังช่วยสร้างความเจริญให้กับชีวิตและสังคมโดยรวมครับ
|