ก. บ้านเลขที่ซึ่งมีเลขใดซ้ำมากให้ถือเลขนั้นสำคัญดังเช่น บ้านเลขที่ 1008, 1555, 29/2, บ้านเลขที่แรกจะเห็นว่า 0 มีถึงสองตัว และอยู่กลางมีความสำคัญมาก บ้านเลขที่ต่อมา เลข 5 มีถึงสามจำนวน ย่อมมีความสำคัญมาก บ้านเลขที่สุดท้าย จะเห็นว่ามีเลข 2 ทั้งขึ้นต้น และลงท้ายเลข 2 จึงแสดงความสำคัญออกมาเต็มที่
ข. การบวกเลขที่ของบ้านเข้าด้วยกัน เช่นในข้อ ก. บ้านเลขที่แรก เอาบวกกันคือ 1 + 0 + 0 + 8 = 9 และบ้านเลขที่ต่อไป 1 + 5 + 5 + 5 = 16 ถ้าบวกได้เลขสองจำนวนเช่นนี้ก็จะต้องบวกต่อไปให้เหลือเลขจำนวนเดียวคือเอา 1 + 6 ก็จะได้ผลลัพธ์เป็น 7
ตัวอย่างสองข้อนี้ เราก็จะพยากรณ์ได้ทันที โดยถือหลักของบ้านเลขที่อย่างเดียว ข้อจดจำคือให้ถือจำนวนบวกกันทั้งหมดเป็นหลัก ส่วนเลขที่มีจำนวนซ้ำกันแสดงความเด่นออกมาเป็นอันดับรองต่อมา เช่นบ้านเลขที่แรกนั้นบวกได้จำนวน 9 เป็นเลขดี ถือว่าเลข 9 คือเกตุ ให้คุณ คุ้มโทษได้แสดงว่าคนในบ้าน จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มกัน เป็นของโบราณที่ให้คุณคอยปกป้องอยู่ ต่อมาเมื่อพิจารณาตัวเลขซ้ำซึ่งแสดงอาการเด่นคือเลข 0 ซึ่งมีอยู่สองตัว เลข 0 คือดาวมฤตยูกับเลข 9 ย่อมเป็นคู่มิตรกันบ่งถึงความกลมเกลียวกัน ดาวมฤตยูเข้าครอบงำคนในบ้าน บ่งถึงความเป็นอิสระ เลื่อมใสสนใจในศาสตร์เร้นลับต่างๆ ทุกคนเป็นเอกเทศต่อกัน และผูกพันกันดี เพราะอิทธิพลความเป็นมิตรกันนั้น
ส่วนบ้านเลขที่อันดับสอง ตัวเลขบวกกันได้เลข 16 ถือกันว่าเป็นกำลังโสฬสให้คุณผาดโผน แต่เลขสองจำนวนนี้ ถ้าบวกกันต่อไปก็จะเป็น 7 คือดาวเสาร์ตัวทุกข์โทษ แสดงว่าสภาพภายในบ้าน ออกจะมีเรื่องทุกข์ร้อน ไม่กลมเกลียวกันนัก จะมีเจ็บไข้ได้ป่วยภายในบ้าน แต่ก็มีสิ่งให้คุณคุ้มกันอยู่ การทำมาค้าขึ้นปรูดปราดดี แต่โอกาสเสียผล ขาดทุน บางโอกาสย่อมมีเป็นของธรรมดาของอิทธิพลเลข 7 ส่วนเลขอันซ้ำกันมากคือเลข 5 แสดงว่าคนในบ้านใจบุญสุนทาน ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้งสนใจ แสวงหาความรู้ เลข 5 กับเลข 7 เป็นดาวฝ่ายบุญและฝ่ายบาป คือ กุศล และอกุศลที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเป็นศูนย์ถ่วงสำคัญ บ่งถึงความไม่กลมเกลียวกันระหว่างผู้เป็นใหญ่ภายในบ้าน
ตัวอย่างบ้านเลขที่ อันดับสุดท้าย ซึ่งตัวเลขทั้งหมดบวกกัน 2 + 9 + 2 = 13 เป็นเลขไม่ดี ถือว่าเป็นอัปมงคล ผู้อยู่ในบ้านย่อมได้รับความเดือดร้อนอย่างมิต้องสงสัย แต่เมื่อบวกกันอีกที 1 + 3 = 4 เป็นเลขของดาวพุธ และเลข 2 เป็นเลขเด่น จำนวนมากบนเลขที่ 2 กับ 4 เป็นคู่มิตรกันย่อมอุปการะกันดี คือย่อมจะให้คุณอยู่บ้างแต่อาถรรพณ์ของเลขร้ายคือเลข 13 ก็ยังมีอยู่ จะหลีกเลี่ยงเสียมิได้ ความวิบัติอันคาดไม่ถึงย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ค. เมื่อบวกบ้านเลขที่ได้เลขอะไร คือให้ได้เลขจำนวนเดียว ก็ให้นำมาประกอบกับสภาพเลขของพื้นภูมิทำเลทั่วๆ ไป เช่นทำเลของบ้านเป็นลักษณะของดาวเสาร์เลข 7 ส่วนบ้านเลขที่ เมื่อบวกกันถึงที่สุดได้เลข 3 เราจะเห็นได้ทันทีว่าเลขสองตัวนี้เป็นศัตรูกัน เลข 3 และ 7 คู่นี้บ่งถึงอุบัติเหตุอย่างร้ายแรง บุคคลภายในบ้าน จะมีการผ่าตัด และเป็นโรคเรื้อรัง มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ภายในบ้านยากที่จะหาความสงบสุขได้ วิธีแก้เคล็ดก็คือให้เปลี่ยนสภาพของบ้านให้เป็นลักษณะดาวศุกร์ คือ เลข 6 คู่มิตรกับเลข 3 อังคาร คือให้ตกแต่งประดับประดาบ้าน ให้เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่เป็นทางสวยงาม มีศิลปะก็จะช่วยให้ความเจริญรุ่งเรืองขึ้น
ง. อาชีพของบุคคลผู้เป็นหลักภายในบ้าน ก็สำคัญมิใช่น้อย ลักษณะของอาชีพมีตัวเลขดังนี้
เลข 1 ผู้พิพากษา, หัวหน้าฝ่ายบริการ, สถาปนิก, มัณฑนะกร, นักธุรกิจ
เลข 2 การค้าขาย, การติดต่อ, ร้านเกี่ยวกับสตรี, ร.ร. สตรี
เลข 3 ทหาร ตำรวจ วิศวกร ช่างเครื่อง นักมวย นักกีฬา
เลข 4 นักประพันธ์ บุรุษไปรษณีย์ คนขับรถ แพทย์ ร้านขายหนังสือ นักดนตรี
เลข 5 ครูอาจารย์ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย
เลข 6 ศิลปิน ช่างเสริมสวย ขายเครื่องสำอาง
เลข 7 กรรมกร ช่างเหล็ก โรงงานอุตสาหกรรมหนัก
เลข 8 การสังคม ธุรกิจบันเทิง การสมาคม ขายเหล้า บาร์ ไนต์คลับ โสเภณี คนเดินตลาด
เลข 9 อาจารย์ขลัง นักจิตวิทยา แพทย์ โรงพยาบาลประสาท ร้านขายยา ร้านค้าโบราณวัตถุ ภันธารักษ์
เลข 0 นักวิทยาศาสตร์ โจร นักเดินทางแสวงโชค การสำรวจ จิตรกร
เลขของอาชีพเหล่านี้ จะต้องดูให้เหมาะกับทำเลของบ้าน เช่นอาชีพเป็นสถาปนิกหรือหัวหน้าฝ่ายบริหาร อีกหมายถึง เลข 1 อาทิตย์ จะไปอยู่ในบ้านอันมีภูมิทำเลของเลข 3 อังคารย่อมไม่เกิดความเจริญ เพราะเลขทั้งสองเป็นคู่ศัตรูกัน อยู่ไปมีแต่เดือดร้อน จำเป็นต้องโยกย้าย หรือ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้าน ให้เปลี่ยนโฉมหน้าเป็นอิทธิพลของเลขอื่นอันให้คุณสนับสนุนซึ่งกันและกัน
หรือนักประพันธ์ คือ อาชีพหมายถึง เลข 4 ไปอยู่ในภูมิทำเลบ้านอันมีคนพลุกพล่านไม่สงบสุข คือเลข 8 ย่อมทำงานไม่ได้ เพราะบ้านและประเภทของงานไม่เหมาะสมกัน และเลขทั้งสองก็เป็นคู่ศัตรูกันอีกด้วย ย่อมให้โทษ
การพิจารณาต่อไปให้กว้างขวาง ถึงตำบล หรือตรอกอันเป็นที่ตั้งของสถานที่อยู่ ว่าจะเหมาะสมกับภูมิทำเลของบ้านหรือไม่ถ้าพิจารณาละเอียดลออเช่นนี้ จะเป็นการแก้เคล็ดได้อย่างอัศจรรย์ เช่นตรอก ชื่อว่า วารี แปลว่าน้ำ เราจะต้องอ่านให้ออกว่านั่นคือ ดาวเนปจูน หรือเลข 8 แต่ถ้าบ้านใดเกิดไปทาสีเขียวอันเป็นสีของดาวพุธเลข 4 ก็ย่อมให้โทษเพราะเลขทั้งสองเป็นคู่ศัตรูกัน อีกประการหนึ่งเลข 4 คือพุธ เมื่อไปอยู่ในเรือนเนปจูน มีสภาพเป็นนิจเสื่อมเสีย บ้านนั้นจึงให้โทษอยู่ไปย่อมไม่มีความเจริญ แต่ถ้าบ้านอันมีภูมิทำเลเป็นดาวศุกร์ หรือทาสีฟ้า, น้ำเงิน คือเลข 6 ไปอยู่ในตรอกนั้นเลข 6 ดาวศุกร์เป็นมหาอุจในเรือนของเนปจูน เลข 8 จึงให้คุณเป็นอธิคุณทีเดียว และบุคคลผู้มีอาชีพเป็น หมอนวด ศิลปิน โสเภณี ช่างเสริมสวย ช่างแกะสลักถ้าไปอยู่ในตรอกเช่นว่านี้ย่อมจะเจริญรุ่งเรืองอย่างมากทีเดียว การพิจารณาอย่างลึกซึ้งประณีตเช่นนี้ เป็นเคล็ดอันสำคัญของโหร ซึ่งพึงควรเรียนรู้และจดจำไว้ให้จงหนัก จัดว่าเป็นศิลปะการพยากรณ์อันสูงยิ่ง สามารถจะแก้เคล็ดอาถรรพณ์ต่างๆ จากร้ายให้กลายเป็นดีได้ในเมื่อเราล่วงรู้ถึงความจริงของอาถรรพณ์ทั้งปวง
การพิจารณาต่อไปจะต้องดูในดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ เป็นเครื่องประกอบด้วยเช่นในดวงชาตามีดาวเนปจูนอยู่ในภพวินาศนะต่อลัคนา แต่เจ้าชาตาใช้รถยนต์สีแดงอันเป็นสีของเนปจูนขับขี่เป็นประจำ ซึ่งก็เท่ากับนำของวินาศนะมาใช้ เคยมีตัวอย่างมาแล้ว ปรากฏว่าเจ้าชาตาประสพความวิบัติอย่างรุนแรง บางคนถึงแก่เส้นโลหิตแตกฟุบคาพวงมาลัยหมดสติ และไปตายที่โรงพยาบาล ถ้าเจ้าชาตาล่วงรู้ถึงความวิบัติอันร้ายกาจนี้แล้วแก้ให้ถูกต้อง แทนที่จะเสียชีวิตก็อาจจะร่ำรวยมั่งคั่งทันตาเห็นเสียด้วยซ้ำไป
ทฤษฎีอาถรรพณ์เกี่ยวกับตัวเลขนี้ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าศึกษาค้นคว้ามาเป็นแรมปีและได้ใช้พยากรณ์เกิดผลแม่นยำอย่างน่าอัศจรรย์เคยช่วยคนให้พ้นจากความวิบัติให้กลายเป็นดีทันตาเห็นมามากแล้วเช่นกัน ข้าพเจ้าเปิดเผยทฤษฎีนี้ ก็เพื่อประโยชน์ของวิทยาทาน หากผู้ใดนำทฤษฎีของข้าพเจ้าไปใช้แล้ว แอบอ้างว่าเป็นของตนดังเช่นที่ข้าพเจ้าเคยโดนกรรมวิธีเช่นนี้กระทำอย่างน่าละอายมาแล้ว ขอให้ท่านผู้นั้นจงได้รับผลกรรมแห่งการลบหลู่คุณของผู้ให้ความรู้ตามโทษานุโทษของกรรมโดยทุกประการ หากผู้ใดคิดจะเผยแพร่โดยมีมุทิตาจิต ไม่แอบอ้างเพื่ออาณาประโยชน์ของตน ก็ขอให้ท่านผู้นั้นจงเจริญรุ่งเรืองด้วยประการทั้งปวงเทอญ
|